บัญชี

บัญชี
บัญชีธนาคาร

วันพุธที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ดูแลรักษาหน้าอย่างไรให้สวยใส น่าสัมผัส ต้อง นี่เลย สูตรสวยแบไม่ต้องเปลืองตังค์จ๊ะ





·        สูตรขจัดสิวหัวดำ 
นำมะเขือเทศสดมาปั่นรวมกับข้าวโอ๊ตให้เข้ากัน แล้วผสมน้ำผึ้ง 
สักเล็กน้อยนำมาทา บนใบหน้าให้ทั่ว เน้นเป็นพิเศษบริเวณ 
ที่มีสิวหัวดำ แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำอุ่น 

มาร์คพอกหน้าสูตรใบเตย 
นำใบเตย4-5 ใบมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆแล้วนำไปปั่นรวมกับไข่ไก่ 
2ช้อนโต๊ะจะได้มาร์คพอกหน้าเป็นครีมข้นๆ หอมกลิ่นใบเตย 
พอกหน้าไว้ประมาณ 5-10 นาที แล้วล้างหน้าตามปกติ 

ถนอมผิวหน้าด้วยโยเกิร์ต 
ล้างหน้าให้สะอาด ซับเบาๆด้วยผ้าขนหนู แล้วใช้มือแตะ 
โยเกิร์ต(ให้ใช้ชนิดที่ไม่ผสมเนื้อผลไม้) มาพอกให้ทั่วผิวหน้า 
เว้นรอบปากและดวงตา นวดและคลีงเบาๆ พอกไว้ประมาณ 
20 นาที จึงล้างออก หมั่นทำสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ผิวจะเปล่งปลั่ง 
สดใสอมชมพูทีเดียวค่ะ 


ครีมพอกหน้าสำหรับสาวผิวมันและผิวผสม
 
ให้ใช้แตงกวา1 ผล ไขไก่ 1 ฟอง (ใช้เฉพาะไข่ขาว) และมะนาว 
1 เสี้ยว หั่นแตงกวาเป็นแว่นบางๆ นำไปปั่นพร้อมกับไข่ขาว 
และบีบน้ำมะนาวลงไป ปั่นจนละเอียดเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน 
นำมาพอกให้ทั่วใบหน้า เว้นรอบปากและดวงตาไว้ ทิ้งไว้ 
ประมาณ 20 นาที แล้วจึงล้างหน้าตามปกติ หมั่นทำบ่อยๆ ทุก 
สัปดาห์ จะช่วยลดความมันส่วนเกิน และยังช่วยสมานผิวหน้า 
กระชับรูขุมขน ช่วยให้ผิวหน้าเรียบเนียน เต่งตึง และนวลนุ่ม 
ชุมชื่น 

เพื่อเรียวขาสวย 
ก่อนนอน นำมะนาวเปรี้ยวๆสักหนึ่งเสี้ยว บีบลงในดินสอพอง 
พอหมาด ทาให้ทั่วขา ทิ้งไว้สักหนึ่งคืน รุ่งเช้าค่อยล้างออก 
แม้จะไม่ทำให้ขาเนียนขึ้นทันตาเห็น แต่หากทำเป็นประจำ 
ยืนยันว่าได้ผลค่ะ 



ลบรอยกระด่างดำบนใบหน้าด้วยมะละกอสุก 
นำมะละกอสุกมายีให้ละเอียด พอกหน้า ทิ้งไว้ สัก 10 นาที 
แล้วจึงล้างออก จะช่วยให้ ใบหน้าที่มีรอยด่างดำดูดีขึ้น 



สูตรรักษาฝ้า 
คั้นน้ำมะขามเปียก ให้ค่อนข้างใสสักหน่อย ตั้งไฟอ่อน รอจนสุก 
จึงใส่น้ำผึ้งลงไปคนให้เข้ากัน ขั้นตอนนี้ต้องทำพร้อมกัน 
คือมือหนึ่งเท อีกมือก็คนให้ทั่ว นำมาทาหน้า วันละ 1 ชั่วโมง 
ช่วยรักษาฝ้า และทำให้ผิวหน้านวลใสขึ้น 


สูตรสาวหน้าใส 
ส่วนผสม น้ำผึ้ง น้ำมะนาว 
ผสมน้ำผึ้ง 1 ถ้วย น้ำมะนาว 1 ช้อนชา เข้าด้วยกัน 
นำมานวดให้ทั่วใบหน้า 
มะนาว จะช่วยขจัดเซลล์ผิว เหมือนครีมที่มีส่วนผสม 
AHA นั่นแหละ ส่วนน้ำผึ้ง ทำให้ผิวนุ่ม ชุ่มชื่น นวด 
ประมาณ 15 นาที 


สูตรลดริ้วรอย 
เลือกใช้ผลไม้ที่หาง่าย จะเป็นแอปเปิ้ล กล้วยหอม 
แตงกวา หรือมะเขือเทศก็ได้ค่ะ ใช้ปริมาณ 1 ถ้วย 
นำมาปอกเปลือกและเอาเมล็ดออก นำไปปั่นให้เนื้อ 
ละเอียด นำเนื้อผลไม้ที่เตรียมไว้ มาพอกให้ทั่วหน้า 
ทิ้งไว้ 15 นาที แล้วล้างออก และล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น 
อีกครั้ง จะทำให้ผิวหน้าเนียนนุ่ม เกลี้ยงเกลา แลดูสดใส 


สูตรกระชับรูขุมขน 
กล้วยหอม แตงกวา มะเขือเทศ (เลือกเอาอย่างใด 
อย่างหนึ่ง) ปอกเปลือก เอาเมล็ดออก แล้วหั่นเป็น 
ชิ้นเล็ก ๆ เติมนมเปรี้ยวหรือน้ำผึ้งลงไป 
นำไปปั่นจนละเอียดเป็นเนื้อครีม นำมาพอกให้ทั่ว 
ใบหน้าและลำคอ ทิ้งไว้ ประมาณ 15 นาที แล้วจึงล้าง 
ออกด้วยน้ำอุ่น จะช่วยทำความสะอาดใบหน้า และ 
ช่วยกระชับรูขุมขน และบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น 


สูตรพิฆาตสิวเสี้ยน 
นำไข่ขาว มาทาบาง ๆ บริเวณที่มีสิวเสี้ยน แล้วใช้ 
กระดาษทิชชูหรือกระดาษซับหน้าแค่ชั้นเดียว 
วางทับลงไป รอให้แห้ง แล้วค่อย ๆ ดึงกระดาษออก 
โดยดึงจากมุมด้านล่าง สิ้วเสี้ยนที่เคยเป็นเสี้ยนหนาม 
ตำใจจะหลุดออกมาอย่างง่ายดายค่ะ 


เคลนเซอร์สำหรับทุกสภาพผิว 
โยเกิร์ต 1/2 ถ้วย 
น้ำมันดอกทานตะวัน 1 ช้อนโต๊ะ 
น้ำมะนาว 1 1/2 ช้อนโต๊ะ (คั้นสด ๆ นะคะ) 
นำส่วนผสมทั้งหมด มาผสมให้เข้ากัน พอกให้ทั่วหน้า 
ทุกเช้าและก่อนนอน แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด 
จะช่วยทำความสะอาดผิวหน้าได้อย่างล้ำลึก และบำรุงผิว 
ให้ชุ่มชื้นอีกด้วย 


สูตรสาวผมสวย 
ผมนุ่มสลวยด้วยแชมพูจากมะกรุด 
วิธีทำ ใส่น้ำ2 แก้ว ลงไปต้มให้เดือด ใส่มะกรูด 1 ลูก 
ผ่าซีกลงไป ปิดฝาปิดไฟ ทิ้งไว้ 5 นาที นำมากรอง 
เอาแต่น้ำ นำน้ำมะกรูดที่ได้มาสระผม จะช่วยให้ผม 
นุ่มสลวยแถมและไร้รังแคด้วยค่ะ 


ครีมนวดผมสำหรับผมแห้ง 
น้ำมันมะพร้าว 2 ช้อนโต๊ะ ผสมกับ ไข่แดง 1 ฟอง 
นำมาตีให้เข้ากัน นวดให้ทั่วศีรษะ ทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง 
จะทำให้ผมนิ่มสลวย ดูมีน้ำหนัก และจัดทรงง่าย 


ผมสวยด้วยแชมพูไข่ 
ถ้าผมแห้งมาก ใช้ไข่ 1 ฟอง เลือกเอาเฉพาะไข่แดง 
ตีให้ละเอียดผสมน้ำอุ่นเล็กน้อย หลังจากสระผม 
โดยทิ้งไว้ 10 นาที จึงล้างออก จะทำให้เส้นผมนุ่มสลวย 
ไม่หยาบมือ 


ทรีทเม้นท์ไข่และแตงกวา
 
นำไข่ (ใช้ทั้งไข่ขาวและไข่แดง) ตีให้เข้ากัน เติมน้ำมัน 
มะกอกลงไปในปริมาณที่ใกล้เคึยงกัน นำมาผสมกับ 
แตงกวาซึ่งปั่นจนละเอียด (ใช้ 1/4 ลูก) พอกให้ทั่วเส้นผม 
ประมาณ 10 นาที ทำเพียงเดือนละครั้ง ช่วยบำรุงผม 
ให้นิ่มสลวย เหมาะกับผมที่แห้งกรอบจากความร้อน 


ครีมนวดผมสูตรน้ำผึ้ง 
น้ำผึ้ง 1/2 ถ้วย 
น้ำมันมะกอก 1/4 ถ้วย ถ้าผมไม่แห้งนักใช้เพียง 
2 ช้อนโต๊ะก็พอค่ะ 
ผสมน้ำผึ้งกับน้ำมันมะกอกให้เข้ากัน นำมาหมักให้ 
ทั่วเส้นผม ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที หลังจากนั้น 
สระผมให้สะอาดอีกครั้งค่ะ เหมาะกับคนที่ผมแห้ง 
จนเสียสวยค่ะ 


ผิวเรียบเนียนด้วยกาแฟบด
 
ก็บรรดา ครีมขจัดเซลลูไลต์ ที่ราคาแสนแพงน่ะ 
มีคาเฟอีนอยู่ด้วย ซึ่งช่วยกระตุ้นการขจัดเซลล์ไขมัน 
และยังขัดผิวให้เรียบเนียน แต่อาจจะดูยุ่งยากกว่า 
การใช้ครีมกระปุกอยู่บ้าง จึงควรทำในห้องน้ำ และ 
ก่อนที่จะลงมือขัดผิวด้วยกาแฟอย่าลืมปูพื้นห้องน้ำ 
ด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ เพื่อป้องกันท่อน้ำตันค่ะ 
สูตรนี้ใช้กับผิวกายนะคะ ห้ามใช้กับผิวหน้าค่ะ 
และในระหว่างที่ขัดผิว หากมีนวดไปด้วย จะช่วยกระตุ้น 
การไหลเวียนของเลือด ทำให้ผิวพรรณสดใสขึ้นได้ค่ะ 


สาวมือนุ่ม 
นำเนื้อสัปปะรด มาบดให้ละเอียด พอกให้ทั่วมือของคุณ 
และนวดไปด้วย สัก 5 นาที จะช่วยให้มือนุ่ม มีเสน่ห์ 
ขึ้นอีกพะเรอเกวียนเชียวล่ะ 
นำไข่ขาวมาตีให้ขึ้น แล้วเติมน้ำมะนาว และน้ำผึ้ง อย่างละ 
1 ช้อนชา นำมาชโลมให้ทั่วใบหน้า แล้วใช้มือนวดเป็นวงกลม 
ไปพร้อม ๆ กัน ทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วจึงใช้ผ้านุ่ม ๆ ชุบน้ำเช็ดออก 
จะช่วยทำความสะอาดผิว และบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นในขณะเดียวกัน 
นอกจากนำมาทาหรือพอกหน้า เพื่อให้ผิวสดใส เปล่งปลั่ง 
กันแล้ว ในวันหยุด ลองดื่ม ชาผสมน้ำผี้ง จะช่วยกระตุ้นระบบ 
การไหลเวียนของเลือดให้ดีขึ้น ทำให้ผิวสดใส มีเลือดฝาด แต่ 
ไม่ควรเทน้ำเดือดจัดๆ ลงในน้ำผึ้งนะคะ เพราะอาจทำให้สาร 
ที่มีประโยชน์ในน้ำผึ้ง สลายตัวได้ค่ะ 


พอกหน้าด้วยน้ำผึ้ง (จากสเปน) 
ล้างหน้าให้สะอาด เช็ดให้แห้งแล้วใช้ปลายนิ้วแตะ 
น้ำผึ้งลูบไล้บนใบหน้าและลำคอเบาๆสักครู่แล้วนวดหน้า 
ด้วยปลายนิ้วอย่างแผ่วเบาสักประมาณ 5 นาทีจนน้ำผึ้ง 
เหนียว นวดต่อไปไม่ได้แล้ว ก็ปล่อยทิ้งไว้ นอนพักให้ 
ศีรษะอยู่ต่ำกว่าระดับปลายเท้า เพื่อให้เลือดไหลมา 
หล่อเลี้ยงที่ใบหน้าและลำคอได้สะดวกยิ่งขึ้น พักสักครู่ 
แล้วค่อยๆใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดน้ำผึ้งออก 

 
พอกหน้าด้วยแอ๊ปเปิ้ล (จากเบลเยี่ยม) 
ปอกแอ๊ปเปิ้ล คว้านเอาไส้และเมล็ดออก แล้วบดให้ 
ละเอียดขณะที่บดให้ผสมน้ำผึ้งลงไปด้วย เมื่อบดจน 
เข้ากันดีแล้ว นำเอาส่วนผสมนี้มาพอกหน้าทิ้งไว้ 20 นาที 
แล้วใช้นมสดเย็นๆล้างออก 


พอกหน้าด้วยแตงโม (จากตุรกี)
 
 ฝานแตงโมเป็นชิ้นบางๆจากส่วนที่แดงที่สุด นำมา 
แปะให้ทั่วใบหน้า แล้วใช้ผ้าขาวบางคลุมหน้าไว้ 
นอนพักสักครู่ ประมาณ ครึ่งชั่วโมง แล้วล้างออก 
ด้วยน้ำเย็น 


พอกหน้าด้วยไข่ขาว (จากสวิตเซอร์แลนด์)
 
ต่อยไข่ไก่ 1 ฟอง แยกไข่แดงออก เทเฉพาะไข่ขาว 
ลงในถ้วย ใช้ส้อมตีไข่ขาวจนเป็นฟองพอสมควร แล้วใช้ 
แปรงนุ่มๆจุ่มไข่ขาวทาให้ทั่วใบหน้าและลำคอ ทิ้งไว้ 
ประมาณ 20 นาที จนไข่ขาวเริ่มจับตัวแข็ง แล้วล้าง 
ออกด้วยน้ำเย็น 


พอกหน้าด้วยน้ำมะนาวและน้ำผึ้ง (จากฝรั่งเศส) 
ผสมน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ กับน้ำมะนาว 1 ช้อนชา คนให้ 
เข้ากัน แล้วนำมาทาให้ทั่วทั้งใบหน้าและลำคอ ทิ้งไว้ 
อย่างน้อย ครึ่งชั่วโมง หรือมากกว่า แล้วล้างออกด้วย 
น้ำอุ่น 


พอกหน้าด้วยมะเขือเทศ (จากญี่ปุ่น)
 
ฝานมะเขือเทศ 1 ชิ้นหนาๆ ถูให้ทั่วใบหน้าและลำคอ 
เบาๆตรงบริเวณที่มีสิวเสี้ยน มะเขือเทศมีวิตามินซีและ 
กรดAHA จะช่วยลอกผิวหนังที่ตายแล้วให้หลุดออกได้
หลังจากนั้นจึงค่อยใช้สำลีชุบน้ำเย็นเช็ดมะเขือเทศออก 


พอกหน้าด้วยนมเปรี้ยว (จากรัสเซีย)
 
สำหรับผู้ที่มีผิวหน้ามัน ให้ล้างหน้าให้สะอาดก่อน 
จะเอานมเปรี้ยวที่แช่เย็นจัดพอกหน้า ทิ้งไว้ 20 นาที 
หรือนานกว่านั้นแล้วใช้ผ้าขนหนูนุ่มๆเช็ดออก 
ตำรับนี้จะใช้ได้ผลดีมากในหน้าร้อน จะช่วยให้ 
ใบหน้าที่ซีดเซียวกลับเปล่งปลั่งขึ้นได้ 


การเลือกมาสก์พอกหน้าให้เหมาะกับผิว
 
ผิวมัน คุณสามารถใช้มาสก์ได้สัปดาห์ละ 2 ครั้ง มาสก์ที่เหมาะ 
กับคนผิวมัน ควรมีคุณสมบัติช่วยดูดซับความมัน สามารถ 
ขจัดสิ่งสกปรกที่อุดตันในรูขุมขนได้ พร้อมกับช่วยกระชับ 
รูขุมขน 
ผิวแห้ง ควรมาสก์หน้าสัปดาห์ละครั้งก็พอค่ะ มาสก์ที่เหมาะ 
กับคนผิวแห้ง ควรมีคุณสมบัติช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว 


วิธีการมาสก์หน้า
 

ควรทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดหมดจดด้วยคลีนเซอร์ที่ 
เหมาะกับผิว ก่อนที่จะพอกหน้าให้ทั่วใบหน้า โดยเว้นรอบ 
ดวงตาและริมฝีปาก แล้วทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที ( ถ้าจะ 
ให้ผลดีอาจใช้ผ้าขนหนูชุบอุ่น ๆ นำมาวางบนหน้า ความร้อน 
จากผ้าขนหนูจะช่วยให้ส่วนผสมในมาสก์ซึมซับสู่ผิวได้ดี 
ยิ่งขึ้น ) แล้วใช้สำลีชุบน้ำอุ่นเช็ดทำความสะอาด จากนั้น 
จึงล้างหน้าด้วยน้ำเย็นอีกครั้ง ซึ่งจะช่วยกระชับรูขุมขน 
และทำให้ผิวสดชื่น เช็ดให้แห้งด้วยผ้านุ่ม ๆ และตามด้วย 
ครีมบำรุงผิวค่ะ คราวนี้ผิวคุณก็นุ่มละมุนสดชื่น และสดใส 
...ชัวร์ 

มอยเจอร์ไรเซอร์จากกล้วย 
นำกล้วยบด 1 ผล ผสมกับน้ำผึ้ง 1 ช้อน ยีให้เข้ากัน นำมา 
พอกให้ทั่ว ใบหน้า ทิ้งไว้ 15 นาที จึงล้างออกด้วยน้ำอุ่น 
จะทำให้ผิวหน้า ชุ่มชื้นขึ้น สูตรนี้เหมาะกับผิวแห้งค่ะ 

เคลนเซอร์น้ำผึ้ง 
ผสมน้ำผึ้ง 2 ช้อนโตีะ กับจมูกข้าวสาลี 2 ช้อนชา คนให้เข้ากัน 
นำมาทาให้ทั่วใบหน้า ใช้ปลายนิ้วขัดเบา ๆ เพื่อกระตุ้น 
การไหลเวียนของเลือด และขจัดเซลล์เก่าให้หลุดลอกออกมา 
ซึ่งน้ำผึ้งจะช่วยให้ผิวหน้าชุ่มชื้นขึ้น และยังช่วยลดริ้วรอย 
และจุดด่างดำ 

มาสค์พอกหน้าจากมะละกอ 
นำมะละกอมาปั่นให้ละเอียด นำพอกให้ทั่วผิวหน้า ในมะละกอ 
จะมีเอนไซม์ที่ช่วยขจัดเซลล์ที่ตายแล้วให้หมดได้ จึงทำให้ 
ผิวหน้า สดใส เปล่งปลั่ง 

เคลนเซอร์จากโยเกิร์ต
 
ใช้โยเกิร์ตรสธรรมชาติ กับเกลือป่น 2 ช้อนชา นำมาขัดเบา ๆ 
บริเวณผิวหน้า จะช่วยลดความมันและขจัดเซลล์เก่าให้ 
หลุดลอกออกมา สูตรนี้เหมาะสำหรับผิวผสมและผิวมัน 

มาร์คพอกหน้าจากกล้วยผสมน้ำมันมะกอก
 
กล้วยสุกยีให้ละเอียด เติมน้ำมันมะกอกลงไปเล็กน้อย เพื่อให้ 
เนื้อครีมข้น นำมาพอกให้ทั่วใบหน้าทิ้งไว้ 15-20 นาที แล้ว 
ล้างออก จะช่วยบำรุงผิวหน้าให้ชุ่มชื้นขึ้น เหมาะกับผิวแห้ง 

มาร์คพอกหน้าสูตรไข่ผสมข้าวโอ๊ต 
ไข่ขาว 1 ฟอง ผสมกับ ข้าวโอ๊ต 1 ช้อนชา คลุกเคล้าให้เข้ากัน 
นำมาพอกให้ทั่วผิวหน้า ทิ้งไว้ 15-20 นาที สูตรนี้เหมาะกับ 
ผิวมันค่ะ เพราะจะช่วยขจัดสิ่งสกปรกจากใบหน้า และช่วยปรัป 
ผิวให้สมดุลมากขึ้น 

มาร์คพอกหน้าจากแตงกวา(เหมาะสำหรับผิวมันและผิวผสม) 
ให้ใช้แตงกวา1 ผล ไขไก่ 1 ฟอง (ใช้เฉพาะไข่ขาว) และมะนาว 
1 เสี้ยว หั่นแตงกวาเป็นแว่นบางๆ นำไปปั่นพร้อมกับไข่ขาวและ 
บีบน้ำมะนาวลงไป ปั่นจนละเอียดเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน 
นำมาพอก ให้ทั่วใบหน้า เว้นรอบปากและดวงตาไว้ ทิ้งไว้ 
ประมาณ 20 นาที แล้วจึงล้างหน้าตามปกติ หมั่นทำบ่อยๆ 
ทุกสัปดาห์ จะช่วยลดความมันส่วนเกิน และยังช่วยสมานผิวหน้า 
กระชับรูขุมขน ช่วยให้ผิวหน้าเรียบเนียน เต่งตึง และนวลนุ่ม 
ชุ่มชื่น เหมาะสำหรับผิวมันและผิวผสม 
แก้ข้อศอก ส้นเท้าด้านดำ 
ใช้เปลือกมะนาวที่บีบน้ำออกหมดแล้ว นำมาขัด ๆ ถูผิว 
ส่วนที่ด้านหรือแตก เช่น ข้อศอกหรือส้นเท้า จะช่วยให้ 
ผิวนุ่ม ชุ่มชื้น รอยด้านหรือแตกก็จะค่อยจางลง 

ลบรอยด่างดำที่ขา 
สาว ๆที่ขาลาย มีจุดด่างดำเล็ก ๆ ให้ใช้น้ำมะนาวบีบลงใน 
ดินสอพอง พอหมาด ๆ ทาบริเวณขาทุกคืน ก่อนนอน 
ตื่นเช้าค่อยล้างออก รอยด่างดำ จะค่อยจางหายไป 

ผสมในน้ำอาบ ช่วยให้ผิวพรรณสดใส 
ฝานมะนาวออกเป็น 4 ส่วน ใส่ลงในน้ำที่จะอาบ นอกจาก 
จะช่วยขจัดของเสียออกจากผิวแล้ว และยังทำให้ผิวพรรณ 
สดใสอีกด้วย และทุกเช้าตอนตื่นนอน ดื่มน้ำอุ่นผสมมะนาว 
ก็จะช่วยขจัดสารพิษออกจากร่างกาย และช่วยให้ผิวพรรณ 
สดใสอีกทางหนึ่ง 

แก้ปัญหาเล็บเหลือง 
สำหรับสาว ๆ ที่แต้มสีเล็บบ่อย ๆ อาจทำให้เล็บเหลืองได้ 
ให้ใช้สำลีชุบน้ำมะนาวแปะเล็บไว้สัก 10 นาที จะทำให้ 
คราบสีเหลืองค่อย ๆหายไป และยังทำให้เล็บแข็งแรง 
ขึ้นด้วย 

ขจัดรอยเปื้อนยางผลไม้ 
เมื่อปอกผลไม้ที่มียาง ยางมักติดตามซอกเล็บ แก้ไขได้ 
โดยใช้เปลือกมะนาวที่บีบน้ำออกหมดแล้ว มาขัด ๆ ถูๆ 
บริเวณที่เปื้อน คราบยางดำ ๆ จะหลุดลอกออก เล็บมือ 
ของคุณจะขาวสวยเหมือนเดิม 

ในเวลาที่นอนไม่หลับ 
การจิบน้ำผึ้งอุ่นๆ จะช่วยให้คุณหลับ 
ได้ง่ายขึ้น หากช่วงไหนโหมงานหนักๆ ใบหน้าหมองคล้ำ 
อิดโรย ให้ใช้น้ำผึ้งบริสุทธิ์ทาผิวหน้า ทิ้งไว้ราว 3-4 นาที 
แล้วจึงใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่น เช็ดออก จะช่วยให้ผิวหน้าสดใส 
มีชีวิตชีวาขึ้น 

น้ำผึ้งนั้น เราสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ในทุกขั้นตอนของ 
การดูแลผิวหน้าตั้งแต่การทำความสะอาดผิว กระชับรูขุมขน 
และการบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น ป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัย 
เติมน้ำมะนาว 2-3 หยด ลงในน้ำผึ้ง แล้วนำมาพอกหน้าไว้สัก 
5 นาที แล้วล้างออก จะช่วยให้ผิวหน้าขาว สดใสขึ้น 
กล้วยสุก 1 ผล นำมาบดแล้วเติมน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา ผสมให้เข้ากัน 
นำมาพอกหน้าทิ้งไว้ 15 นาที แล้วล้างออก จะช่วยให้คนที่ผิว 
แห้งมากๆ ดูชุ่มชื้นขึ้น





สอบถามโทร 085-9083178 แป้น




วันอังคารที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2556

7 ทางลัดแต่งหน้าสวยใน 10 นาที ชีวิตง่ายขึ้นอีกเยอะ




          การแต่งหน้าเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกความเป็นผู้หญิงสุด ๆ ผู้หญิงที่แต่งหน้าได้เป๊ะมาทำงานทุกวันก็ต้องใช้ความพยายามและความอดทนไม่น้อย ต้องตื่นตั้งแต่ไก่โห่มาแต่งหน้าทำผมให้สวยครบทุกองศา ส่วนผู้หญิงที่แบกหน้าซีด ๆ มาทำงานก็ไม่ใช่ไม่อยากแต่ง แต่มันติดอยู่ที่ตื่นไม่ทันก็แค่นั้นจริงไหมล่ะ แต่ถ้าอยากจะสวยซะอย่างอะไรก็ฉุดไม่อยู่หรอก เพราะแค่ใช้เทคนิคลัดเลาะ 7 กระบวนท่าต่อไปนี้ ก็เสียเวลาแต่งหน้าเพียงแค่ 10 นาที สวยเป๊ะไปทำงานได้ทันทุกเช้าแล้วจ้า

       1. เก็บเครื่องสำอางไว้ที่เดียวกัน

          สิ่งสำคัญอันดับแรกที่จะช่วยให้คุณแต่งหน้าได้เร็วทันใจภายใน 10 นาที ก็ต้องเริ่มจากการรวบรวมเครื่องสำอางที่ใช้แต่งหน้าทุกชิ้นเอาไว้ด้วยกัน เพื่อให้เราหยิบใช้ได้สะดวก ไม่ต้องเสียเวลาไปค้นหาในลิ้นชักอีกต่อไป และทางที่ดีก็ควรแยกเซตเครื่องสำอางแต่ละประเภทไว้ด้วย อยากแต่งสไตล์เปรี้ยวจี๊ด เบาบางดูเป็นธรรมชาติ หรือแต่งเข้มสำหรับออกงานก็แยกกระเป๋าเอาไว้เลย

       2. ทินท์ มอยส์เจอไรเซอร์ช่วยได้


          ทินท์ มอยเจอไรเซอร์ (Tinted Moisturizer) คือ ครีมบำรุงเจือสี ที่ช่วยทำให้หน้าดูผ่องใสอย่างเป็นธรรมชาติมาก ๆ เหมาะกับวันที่อยากจะแต่งหน้าอ่อน ๆ เน้นลุคธรรมชาติ อีกทั้งยังมีคุณสมบัติบำรุงผิวไปด้วยในตัว เรียกได้ว่าทาครีมตัวเดียวก็ครอบคลุมทั้งบำรุงและปรับสีผิวให้ดูกระจ่างใสขึ้นได้ทันที แต่ถ้าจะให้ดีควรเลือก ทินท์ มอยเจอไรเซอร์ ที่มีส่วนผสมของสารกันแดดด้วยนะจ๊ะ

       3. สระผมตั้งแต่กลางคืน

          ถ้าสระผมตอนเช้า กว่าจะเป่าให้แห้ง กว่าจะจัดทรงก็เสียเวลาไปมากโข จนแทบจะไม่เหลือเวลามาแต่งหน้าแล้ว โดยเฉพาะสาวผมยาวที่ต้องใช้เวลามากกว่าสาวผมสั้นถึง 2 เท่า ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ควรสระผมตั้งแต่ตอนกลางคืนเลย ตื่นเช้ามาเสียเวลาจัดทรงอีกนิดหน่อยก็เรียบร้อย ประหยัดเวลาไปได้เยอะจนคุณอาจจะต้องประหลาดใจเลยล่ะ

       4. เรียงลำดับความสำคัญ


          ถ้าคุณชอบแต่งตาให้วิ้งสวย และรู้ตัวว่าต้องเสียเวลากับการแต่งตานานขนาดไหน ก็ควรจัดเตรียมอุปกรณ์ไว้ให้พร้อมในตอนกลางคืนเลย จัดอุปกรณ์ที่ใช้แต่งตาวางเรียงไว้หน้ากระจกเลยก็ได้ ระหว่างนั้นก็วางแผนแต่งหน้าส่วนอื่น ๆ แบบเร่งด่วนที่สุดไปพลาง ๆ ตื่นมาตอนเช้าจะได้แต่งหน้าตามคอนเซ็ปต์ที่วางเอาไว้ได้เลยทันที

       5. มีสมาธิให้มาก

          เคล็ดลับสำคัญของการแต่งหน้าให้เสร็จเร็ว ๆ ควรต้องให้เวลากับมันอย่างเต็มที่ แต่งหน้าทำผมให้เสร็จเรียบร้อยก่อน แล้วค่อยไปทำอย่างอื่น พยายามอย่าย่นระยะเวลาด้วยการแต่งหน้าไป จิบกาแฟไป เพราะนอกจาจะยิ่งทำให้เสียเวลามากขึ้นแล้ว ยังเสี่ยงที่จะแต่งหน้าได้ไม่เป๊ะอย่างที่ต้องการด้วย ฉะนั้นพุ่งสมาธิไปกับการแต่งหน้าทำผมให้เสร็จเป็นอย่าง ๆ ไปดีกว่านะจ๊ะ



       6. พกลิปกลอสหรือทินท์ติดตัว

          หลายคนอาจจะซึ้งแล้วว่า ลิปกลอสและทินท์สามารถเติมเต็มเรียวปากอวบอิ่มให้เราได้อย่างทันใจ ทุกที่ทุกเวลา เพราะแต่ละวันเราจะต้องเติมปากให้มีสีสันอยู่เกือบตลอด ดังนั้นคงดีกว่าหากจะพกลิปกลอสและทินท์ติดกระเป๋าไว้บ้าง เวลาที่ปากซีดจะได้หยิบเอามาเติมปากได้ทันที แถมถ้าวันไหนรีบจัด ๆ แต่งหน้าไม่ครบองค์ ก็จะได้หยิบลิปกลอสมาแต่งแต้มริมฝีปากให้น่าจุ๊บระหว่างที่ต้องผจญกับรถติดด้วยยังไงล่ะ

       7.  ตื่นก่อนเวลาประมาณ 5 นาที

          อาจจะฟังดูง่าย แต่เวลาทำก็ยากไม่ใช่เล่น เพราะโดยปกติกว่าจะงัดตัวเองออกมาจากเตียงได้ก็ต้องกดปิดนาฬิกาปลุกไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ แต่ถ้าคุณสามารถตื่นก่อนเวลาได้แค่ 5 นาที คุณจะแต่งตัวตัวแต่งหน้าได้สบายใจขึ้น และเวลาที่ไม่ต้องรีบร้อนก็มักจะแต่งหน้าออกมาสวยมากกว่าปกติด้วยล่ะ ไม่เชื่อลองดูสิ


          นอกจากทางลัดต่อไปนี้แล้ว ถ้าเป็นไปได้อยากให้คุณสาว ๆ ทุกคนใช้เวลาในห้องน้ำให้น้อยลงกว่าเดิมอีกสักหน่อย จะได้มีเวลาแต่งหน้าแต่งตัวมากขึ้น แต่งไม่เป๊ะยังไงก็ยังมีเวลาที่จะแก้ไข สวยเริ่ดออกจากบ้านตั้งแต่ก้าวแรก ก็จะช่วยเพิ่มความมั่นใจและความสุขให้เราได้อีกมากโขเลยจริงไหมล่ะ

 

สอบถามโทร 085-9083178 แป้น




8 วิธีบำรุงผิวอย่างมีประสิทธิภาพ

8 วิธีบำรุงผิวอย่างมีประสิทธิภาพ



         เพราะการบำรุงผิวไม่ได้หมายถึงการทาครีมบำรุงเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการบำรุงผิวอย่างถูกวิธี และเตรียมสภาพผิวหน้าให้พร้อมรับการบำรุง เพื่อให้สารบำรุงต่าง ๆ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนจะเตรียมผิวหน้าให้ได้รับการบำรุงอย่างเต็มที่อย่างไรมาดูกันค่ะ

 1. สครับผิว

         เซลล์ผิวหนังชั้นนอกสุดที่เริ่มหมดสภาพ จะทำหน้าที่คล้ายกำแพงที่ขัดขวางไม่ให้สารบำรุงผิวต่าง ๆ ผ่านลงสู่ชั้นผิวด้านล่างได้สะดวก ทำให้ผิวชั้นล่างไม่สดใส รวมทั้งชั้นบนเองก็หมองคล้ำอย่างเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพด้วย ลองสครับผิวด้วยสครับสูตรอ่อนโยนเป็นประจำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อขจัดผิวที่เสื่อมสภาพชั้นบนสุดออก เปิดทางให้ผิวชั้นล่างที่สดใสกว่าขึ้นมาทดแทน พร้อมทั้งรับการบำรุงได้อย่างเต็มที่ด้วย

 2. เรียงลำดับการใช้ครีมบำรุงอย่างเหมาะสม

         จงจำไว้ว่าอะไรก็ตามที่ทาลงไปก่อนจะซึมซาบลงสู่ผิวได้ดีที่สุด เพราะฉะนั้น หากคุณต้องการให้ครีมบำรุงผิวชนิดใดออกฤทธิ์ดีที่สุด ก็ต้องทาครีมชนิดนั้นเป็นลำดับแรก อย่างเช่น หากต้องการให้รอยด่างดำดูจางลง ก็ต้องใช้ครีมลดรอยด่างดำก่อนครีมบำรุงผิวชนิดอื่น หรือหากคุณต้องการแก้ปัญหาผิวสองอย่างควบคู่ไปด้วยกัน อย่างเรื่องสิวและรอยด่างดำ ให้สลับใช้ครีมทั้งสองนั้นเป็นลำดับแรกสลับกันในช่วงเช้าและเย็น นอกจากกฎข้อนี้แล้ว สิ่งที่ควรทำตามอีกหนึ่งประการในการใช้ครีมบำรุงก็คือ ใช้ครีมที่มีความเข้มข้นน้อยไปหาครีมที่มีความเข้มข้นมาก อันจะทำให้สามารถซึมซาบลงสู่ผิวได้ดีพอ ๆ กันตามลำดับความเข้มข้นของมัน

  3. ใช้ครีมบำรุงหลังล้างหน้าเสร็จใหม่ ๆ 

         ผิวหน้าที่เพิ่งผ่านการล้างมา มีคุณสมบัติคล้ายฟองน้ำ ซึ่งจะดูดซับสารบำรุงต่าง ๆ ได้ดีเยี่ยม เพราะฉะนั้นเวลาหลังอาบน้ำเสร็จใหม่ ๆ จึงเป็นเวลาที่เหมาะที่สุดในการทาครีมบำรุงผิว

  4. ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น

         การล้างหน้าด้วยน้ำพออุ่น ๆ เป็นการวอร์มผิวให้พร้อมรับการบำรุง อุณหภูมิจากน้ำอุ่นจะทำให้เซลล์ผิวรวมทั้งเส้นเลือดฝอยที่อยู่ใต้ผิวหนังขยายตัวเพื่อคายความร้อนที่สูงขึ้น นั่นหมายความว่ามีพื้นผิวที่พร้อมรับสารอาหารที่มีประโยชน์จากครีมบำรุงเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง

 
 5. ทาครีมเนื้อหนักทับหลังการบำรุงผิว

         การทาครีมเนื้อหนักอย่างครีมที่มีส่วนผสมของปิโตรเลียมเจล เนเชอรัลบัตเตอร์ แว็กซ์ หรือ ออยล์ เป็นส่วนผสมหลัก เป็นลำดับสุดท้ายหลังจากเสร็จสิ้นการทาครีมบำรุงผิวอื่น ๆ จะเป็นการกักให้ครีมบำรุงผิวนั้นซึมลงสู่ผิวหน้าและทำงานได้อย่างเต็มที่ แต่มีข้อยกเว้นคือห้ามทำเช่นนี้กับครีมที่มีส่วนผสมของ เรตินอยด์ วิตามินซี และ ไฮโดรควิโนน ในเปอร์เซ็นต์สูง เพราะจะทำให้ออกฤทธิ์แรงเกินไป และเกิดอาการระคายเคืองผิวหน้าได้

 6. ใช้เรตินอยด์ในยามก่อนนอนเท่านั้น

         ครีมบำรุงอย่างเรตินอยด์ที่ออกฤทธิต้านการเกิดริ้วรอยได้เป็นอย่างดี แต่เหมาะที่จะใช้ในเวลากลางคืนเท่านั้น เนื่องจากรังสียูวีที่มีอยู่ในแสงแดดจะรบกวนทำให้มันไม่สามารถออกฤทธิ์ได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ครีมจะทำงานได้ดีขึ้นในยามที่เราหลับ เพราะในขณะที่นอนอุณหภูมิของร่างกายจะสูงขึ้นราวครึ่งองศา เส้นเลือดฝอยอยู่ใกล้ผิวหนังมากขึ้น และขยายตัวกว่าปกติ ทำให้ผิวหนังสามารถดูดซับสารบำรุงได้ดีกว่า

  7. ใช้เซรั่มเพื่อการบำรุงผิวอย่างล้ำลึก

         เซรั่มเป็นการนำเอาสารบำรุงต่าง ๆ ที่เคยอยู่ในรูปของครีมหรือโลชั่น มาเป็นรูปของเหลว ซึ่งนอกจากจะเข้มข้นกว่าเพราะไม่ต้องถูกเจือจางด้วยเนื้อครีมแล้ว ยังซึมซับลงสู่ผิวง่ายกว่าด้วย หากอยากบำรุงผิวให้เห็นผลทันใจกว่าการใช้ครีมบำรุง เซรั่มบำรุงผิวสามารถตอบโจทย์ข้อนี้ของคุณได้ดีทีเดียวค่ะ

  8. จับคู่การบำรุงอย่างเหมาะสม

         การจับคู่ครีมบำรุงผิวให้เหมาะสมเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของครีมบำรุงผิวให้ดียิ่งขึ้น อย่างการจับคู่ระหว่างครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของสารกันแดดและสารแอนตี้ออกซิแดนท์ในตัว เนื่องจากในขณะที่ครีมกันแดดคอยปกป้องผิวจากรังสียูวี สารแอนตี้ออกซิแดนท์ก็จะทำงานได้ดีขึ้นเพื่อยับยั้งรังสียูวีที่อาจเล็ดลอดเข้ามาทำลายผิว และก่อตัวได้ดีขึ้นเพื่อยับยั้งปัจจัยอื่น ๆ ที่จะมาทำร้ายผิว หากครีมกันแดดที่คุณใช้ไม่มีส่วนผสมของสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ลองใช้ครีมอื่นที่มีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ควบคู่ไปด้วยกันได้เช่นกัน นอกจากนี้ การจับคู่ระหว่างสารเรตินอยด์และไฮโดรควิโนน จะทำให้เกิดประสิทธิภาพสามารถลบเลือนจุดด่างดำได้ดียิ่งขึ้นด้วยค่ะ

         หากทำได้เช่นนี้ รับรองว่าสาว ๆ จะมีผิวสวยจากการได้รับการบำรุงอย่างเต็มที่จากครีมบำรุงผิวที่ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพแน่นอนค่ะ 




 

สอบถามโทร 085-9083178 แป้น